พิพิธภัณฑ์ “บ้านดำ” แหล่งรวมงานศิลปะและจิตวิญญาณของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) หลังจากที่บินลัดฟ้าจากกรุงเทพฯ มาได้เพียงแค่หนึ่งหลับ เราก็ได้มาถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย หรือ สนามบินเชียงราย ไม่เกิน 5 กิโลเมตร “พิพิธภัณฑ์บ้านดำ” อยู่ในเขตหมู่บ้านนางแล ตำบลนางแล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย การเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วด้วยเครื่องบิน ทำให้เราไม่เสียเวลาในการพักผ่อน คลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง เรียกว่าลงเครื่องบินปุ๊บก็เดินทางท่องเที่ยวกันต่อทันที “พิพิธภัณฑ์บ้านดำ”จะเปิดให้เข้าชมทุกวัน โดยจะเปิดให้เข้าชมเป็น 2 ช่วงเวลาด้วยกัน คือ เวลา 9.00 - 12.00 น. และ 13.00-17.00 น. ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม ภายใน “พิพิธภัณฑ์บ้านดำ” มีผลงานของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี มากมาย มีทั้งงานจิตกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม และของสะสมทางศิลปะที่อาจารย์สะสมมาจากทั่วโลก โดยเฉพาะงานด้านสถาปัตยกรรมมีมากกว่า 40 หลัง อาทิเช่น
บ้านดำกาแลเกี่ยวฟ้า ศิลปะชิ้นนี้อาจารย์ต้องการโชว์ความงดงามทรงบ้านเรือนศิลปะแบบทางเหนือ
ลักษณะบ้านเป็นเรือนไม้เก่าสามหลังแฝดของคฤหบดีเชียงรายบ้านป่าก่อคำ
ที่รื้อมาแล้วก่อสร้างใหม่ โดยบนยอดจั่วบ้านจะมีไม้กาแล ไม้ฉลุที่มีลักษณะเป็นไม้ไขว้กันเป็นกากบาก
และสลักสวยงามจำนวน 12 ตัวประดับอยู่ งานชิ้นนี้ใช้เวลาสร้าง 3 ปี เริ่มสร้างเมื่อ
พ.ศ. 2525 บ้านดำกาแลเกี่ยวฟ้าใช้เก็บงานศิลปะต่างๆ
รวมทั้งงานแสดงอาวุธสี่ทวีปที่อาจารย์ได้สะสมไว้
อาคารบ้านดำแกลลอรี่ เป็นสถานที่จัดแสดงภาพวาดและผลงานศิลปะของ
อ.ถวัลย์ ดัชนี รวมถึงมีรอยฝ่ามือประทับของ อ.ถวัลย์ ให้ได้ชม
หอคำ (ที่พักสำหรับสุภาพสตรี) ลักษณะเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงมี
หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยไม้แป้นเกล็ด ด้านบนติดกาแล และบราลี
ด้านล่างประดับด้วยค้ำยันคันทวย ชื่อได้มาจากการเลียนชื่อและเสียงของคุ้มหอคำของเจ้านายฝ่ายเหนือ
อาคารหลังนี้ใช้สำหรับพักอาศัย
วิหารราม ความหมายของชื่อหมายถึง พิหารอันราม (มอกฮาม) ขนาดกลาง ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูงหลังคาทรงสามเหลี่ยม
ลดระดับสี่ชั้น ด้านบนประดับด้วยป้านลมและหางหงส์ แรงบันดาลใจของงานชิ้นนี้คือ
ความงดงามบริสุทธิ์ของไม้ขนาดใหญ่ หรืออาจารย์มักกล่าวว่าเป็นกวีของไม้งานชิ้นนี้แสดงถึงพุทธธรรม
สะท้อนสภาวะศิลป์บรรจุความว่างวิเวกและสุญญตารมณ์ไว้ภายใน
อูบหัวนกกก, นกเงือกหัวแรด ความหมายของชื่อความงาม สุนทรียภาพ อนุรักษ์นิเวศน์
ประติมากรรม และปูนปั้น ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวทรงโดมมีลักษณะคล้ายหัวนกเงือก
โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างปูนทั้งหมด จุดประสงค์ในการสร้างเพื่ออยู่อาศัย
วิหารเล็ก งานชิ้นนี้รวบยอดความคิดจากศิลปะล้านช้าง
ล้านนา หงสาวดี อังวะ เครื่องไม้แกะสลักไทยใหญ่ สิบสองปันนา มัณทะเลย์ หลังคาดินขอพื้นเมือง ลดชั้น ปักยอดฉัตร บราลี 36
ตัว รวมช่อฟ้า ซึ่งสื่อความหมายถึงโลหะปราสาท 37 ยอดโพธิปักขียธรรมภายในประดิษฐานพระพุทธรูปไม้สวยงามมาก
เรือนเชียงทองทาทาบรุ้ง งานชิ้นนี้เกิดขึ้นจากอารมณ์และความรู้สึกของอารยธรรมล้านช้างจากวัดเชียงทอง
วัดลำปางหลวง ความสงบสันโดษอย่างลงตัวแสดงออกมาให้เห็นถึงสุนทรียภาพทางชาติพันธุ์วิทยาลักษณะเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสองชั้นหลังคาทรงสามเหลี่ยมเล่นระดับสี่ชั้น
ประดับด้วยป้านลมและหางหงส์
หยาดน้ำตาบนแก้มกาลเวลา (อูบก๊อกตด) ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวทรงโดมฐานกลมมีลักษณะคล้ายเจดีย์
โครงสร้างอาคารเป็นโครงสร้างปูนทั้งหมดที่นฤมิตขึ้นจากการตกผลึกและการเคี่ยวกรำของสภาวะจิต
ภายในรายรอบด้วยเก้าอี้เขาควาย 26 ตัว หอยสังข์ 64 ตัวจระเข้ตรงกลางเดียวตัวเดียวสื่อความหมายสายตรง ระหว่างมนุษย์ พระเจ้า
นิพพาน อริยมรรค และตน
เรือนหลังข้าว,
บ้านยุ้งข้าว
เดิมเป็นที่เก็บข้าวเปลือกอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าโครงสร้างทั้งหมดของอาคารเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน
เป็นอาคารที่โชว์กระดูกนอกบ้าน ลักษณะใต้ถุนเตี้ยและลมพัดผ่านทรวงทรงงดงาม
หลังคาทรงสามเหลี่ยมมุงด้วยไม้แป้นเกล็ด ด้านบนติดกาแล
มีทางเชื่อมอยู่ตรงกลางตรงกลางของบ้านมีพื้นที่เอนกประสงค์มีเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อน
นอกจากนี้ ยังมีสถาปัตยกรรม
และงานศิลปะอีกมากมายในบ้านดำแห่งนี้
นับว่าเป็นแลนด์มาร์คอีกที่หนึ่งของจังหวัดเชียงรายอีกที่หนึ่งที่เราไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
ถ้ามีโอกาสกว่าจะไปเยือนซักครั้ง เสน่ห์ของดำที่น่าค้นหา
ถ้าได้มีโอกาสไปชื่นชมและเก็บรูปไว้เป็นที่ระลึกก็น่าจะประทับใจไม่น้อยเลยทีเดียว
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น